#COCKTAILCLASSICS

คงจะไม่มีใครปรุงแต่งค็อกเทลแก้วนี้ได้เหมาะสมไปกว่านี้แล้ว…

Cocktail Classic รอบนี้เหมือนเป็นรอบสื่อเลย มีศิลปินหลากหลายวงมาชมในรอบนี้มาก ไม่ว่าจะเป็น Tilly Birds, Taitosmith, มือเบสวง hens, ไก่ไข่, ปั๊ป potato นอกจากนักดนตรีก็มี คุณพิธา มาร่วมชมในรอบนี้ด้วย

บรรยากาศ การเปิดสเตจ สมบูรณ์มาก ๆ เปิดด้วยเพลง ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้งเพื่อมาเจอเธอ เพลงนี่ orchestra เป็นเหมือน backing track เล่นคลอ ๆ ไปเน้นความเป็นร็อคตามเพลงไปก่อน ตามด้วยเพลงที่ผมชอบที่สุด และผมก็คิดว่าเป็น 1 ใน highlights วงนี้เลยคือ “งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง” ขึ้นด้วยเปียโน และต่อด้วยดนตรีจาก orchestra ล้วน ๆ เอาเป็นว่าความไพเราะนั้นอธิบายออกมาจากการที่น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

โชว์จะแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ให้ผู้ชมได้พักเข้าห้องน้ำบ้าง บรรยากาศงานคือ ทุกคนใส่สูท เหมือนมาฟังดนตรี orchestra บรรเลง ดูหรูหรามากๆ ครึ่งแรก ในช่วงเปิดคอนเสิร์ตและผ่านไปสัก 2-3 เพลง ทุกคนนั่งเงียบ เสพดนตรีล้วน ๆ อาจจะเพราะว่านี่คืองาน orchestra เลยทำตามธรรมเนียม มีปรบมือตามปกติ แต่พอพี่โอมเริ่ม ice breaking ก็เริ่มแหกปากร้องเพลงกันเสียงดัง พร้อมเพลงสุดท้ายของครึ่งแรกคือ อภิสิทธิ์ชน ที่พี่โอมชวนทุกคนลุกขึ้นยืน เต้น และเซิ้ง ตามคำแนะนำบน Visual Video ซึ่งเป็นบรรยากาศที่น่าแปลกใจมาก เพราะทุกคนกำลังใส่สูท และเซิ้งกันอยู่

ความประทับใจครึ่งแรกมีมากมาย ตั้งแต่การนำเพลงในสมัยอินดี้มาเล่นผสมผสานกับเพลงในสมัยที่เข้า GMM แล้ว อย่างเช่น อาจเพราะ, ไม่ได้มาจากฟ้า, ดาราดับแสง ซึ่งเป็นหาซาวน์ digital ดี ๆ ฟังยากมาก ๆ แต่พอฟังวันนี้แล้ว รู้สึกหูเคลือบทองเลยทีเดียว ตั้งใจมาฟังเพลงพวกนี้โดยเฉพาะเลย ในฐานะคนที่ประทับใจในไลน์กีตาร์ของวงนี้มาก ๆ ก่อนเข้าเพลง ไม่ได้มาจากฟ้า พี่เชาวน์ได้โซโล่กีตาร์ยาว ๆ เป็น interlude เท่ห์มาก ๆ หลังจากนั้นพี่ฟิลิปก็โชว์โซโล่กลองในเพลง สาวเซี่ยงไฮ้ เท่ห์ไม่แพ้กัน ซึ่งโชว์ในค่อนข้าง exclusive เพราะมีคุณพิธามาด้วย ซึ่งเพลง ไม่เป็นรอง ได้ถูกในมาเป็น 1 ในเพลงที่บรรเลงในคอนเสิร์ตนี้ในช่วงแรก หลังจากเล่นจบ กล้องก็แพนไปที่คุณพิธา ซึ่งนั่งอยู่ชั้น 2 แล้วพี่โอมก็หันไปบอกว่า for you นี่คือความสวยงามของโชว์วันที่ 5 เลยก็ว่าได้

ครึ่งหลัง เปิดด้วย 3 เพลงรักแบบเต็มเพลง เธอ คู่ชีวิต เรา ทั้ง 3 บทเพลงเป็นเพลงรักที่ต่างบริบทกันไปในชีวิตของพี่โอม สำหรับผู้ฟังก็คงมีใครสักคนที่พอได้ยินเพลงนี้แล้วจะนึกถึงเหมือนกัน หลังจากนั้น Cocktail ก็จัด Medley เพลงอกหักทั้งหมดมารวมกัน และผมก็คงหนีไม่พ้นที่จะน้ำตาแตกในเพลง “ส่งเธอออกไป” เพลงที่ไม่กล้าฟังมานาน แต่พอได้ยินเสียงกีตาร์บรรเลงสด ๆ แล้วก็คงจะหยุดกระตุกจิตใต้สำนึกออกมาไม่ไหว และจบด้วยเพลงมันส์ ๆ อย่าง “น้ำตาสุดท้าย” ที่ทุกคนลุกขึ้นมาโดดเต้นกัน

ในครึ่งหลังนี้ มีเพลง “หัวใจเหล็ก” ซึ่งเป็นเพลงใหญ่ที่ไม่ได้รวมใน Medley บอกถึงความแข็งแกร่งของตัวเรา ซึ่งแน่นอนว่าพอเปิด list เพลงดูแล้ว นี่คงต้องให้พี่ปาร์คเดินออกมาโซโล่เบสแน่ ๆ ซึ่งก็เป็นแบบนั้น แล้วก็มีแจมกับไวโอลินด้วย เอาเป็นว่า นี่น่าจะเป็นช็อตที่หายากที่สุดแล้ว ถ้าอัลบั้มใหม่นี้ยังไม่ออกมา ก็คงไม่ได้เห็นพี่ปาร์คออกมาโชว์พลังข้างหน้าสักเท่าไหร่ ถือว่า ประทับใจพี่ปาร์คมาก ๆ ในคอนเสิร์ตนี้

ปฎิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นคอนเสิร์ตวงร็อคที่แปลกมาก และถ้าไม่ใช่วงนี้ก็คงทำไม่ได้ จะมีที่ไหนกันที่นั่งฟังเพลงร็อคในคอนเสิร์ต แต่คอนเสิร์ตนี้ได้เปิดประสบการณ์การนั่งดูคอนเสิร์ตวงร็อคมาแล้ว แต่ศิลปินก็เรียกให้ผู้ชมมายืนเต้นกันด้วยชุดสูทเช่นเดียวกัน 5555 ผมคิดว่ามันไม่ขาด และไม่เกินเลยสำหรับการดีไซน์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ ได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และลงตัว แบ่งสัดส่วนการนั่ง และการยืนฟังได้อย่างดีเยี่ยม จัดใน Accoustic Hall ที่ซาวน์ดีมาก ๆ พร้อมบรรยากาศ ที่ทุกคนพร้อมใจกันแต่งสูทมาชม คงจะหาโอกาสได้ยากแน่ ๆ

หลังจบคอนเสิร์ต Cocktail แถม Thank you shot อีก 3 บทเพลงด้วยกัน “ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร” ที่เหน็บแนมเรื่องการเมืองไม่น่าจะนิดหน่อย “นักดนตรี” ที่อธิบายเส้นทางการเดินทางของนักดนตรีทั้ง 118 ชีวิตบนเวที ว่าหวังว่าสักวันฉันจะได้โด่งดังในสายงานที่ฉันรักบ้าง และเพลงสุดท้าย “กาลเวลาพิสูจน์คน” เพลงนี้มีความหมายกับผมมากจริง ๆ เวลาท้อใจกับการเรียน หรือการใช้ชีวิต “แค่เพียงรู้ว่ามีใครรอ ฉันพร้อมไปต่อ” ทำน้ำตาไหลไม่หยุดจนจบโชว์ 3 เพลงนี้ Cocktail ได้เลือกที่จะสื่อสารความรู้สึกของตัวเองออกมา และทำได้ดีอย่างเหลือเชื่อ การเล่าเรื่องของใคร คงไม่ดีเท่าการเล่าเรื่องราวของตัวเราเองหรอกครับ

ประทับใจคอนเสิร์ตครั้งนี้มาก ๆ และนับเป็นครั้งที่ 3 ที่ผมซื้อสูทมา และได้มีโอกาสใส่ ตอนนี้รู้สึกว่าคุ้มแล้ว เพราะว่าสูทตัวนี้ซับน้ำตาผมไปหลายลิตรในวันนี้